แผนภูมิกราฟแต่ละประเภท

บทความที่เกี่ยวข้อง:
เวลาอ่าน: 1 นาที

มาเรียนรู้เกี่ยวกับแผนภูมิกราฟประเภทต่างๆ เช่น จุดแข็งและจุดอ่อนที่เกี่ยวข้องและวิธีการใช้กราฟเหล่านี้ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การเทรดของคุณ

ในบทเรียนนี้คุณจะได้เรียนรู้:

  • ความแตกต่างระหว่างกราฟเส้น กราฟแท่ง และกราฟแท่งเทียน
  • กราฟประเภทใด เหมาะแก่การเริ่มต้นเทรดที่สุด
  • กราฟประเภทใดแสดงรายละเอียดการเคลื่อนไหวของราคาได้ครอบคลุมที่สุด

การวิเคราะห์ทางเทคนิค มุ่งเน้นไปที่การใช้แผนภูมิกราฟเป็นหลัก ในการเริ่มต้นวิเคราะห์แผนภูมิ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า เราสามารถใช้แผนภูมิกราฟประเภทใดในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดและแผนภูมิแต่ละประเภทเกิดขึ้นได้อย่างไร แผนภูมิกราฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสามประเภท ได้แก่

  • กราฟเส้น
  • กราฟแท่ง (OHLC)
  • กราฟแท่งเทียน


กราฟเส้น

เมือ่พูดถึงตลาดการเงิน กราฟเส้นถือเป็นรูปแบบกราฟที่ง่ายที่สุดที่นักเทรดหุ้นเคยใช้กันมาในอดีต โดยกราฟจะขึ้นอยู่กับเส้นที่ลากจากราคาปิดหนึ่งไปยังราคาปิดถัดไป กราฟดังกล่าวเป็นวิธีที่ง่ายในการแสดงการเคลื่อนไหวของราคาทั่วไปของตลาดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากความเรียบง่ายของกราฟเส้น มันจึงช่วยให้รู้จักรูปแบบทางเทคนิคและเป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ผู้เริ่มต้น หากคุณต้องการเริ่มต้นเทรดในตลาดการเงิน การฝึกฝนด้วยกราฟเส้นก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี 

กราฟแท่งบาร์

กราฟแท่งบาร์แตกต่างจากกราฟเส้นที่แสดงให้เห็นเฉพาะราคาปิดสำหรับตราสารที่เราเทรดเท่านั้น แต่กราฟแท่งจะแสดงราคาเปิดและปิดเช่นเดียวกับจุดสูงสุดและต่ำสุดสำหรับช่วงเวลานั้นๆด้วย ตำแหน่งล่างสุดของบาร์แต่ละแท่ง จะแสดงราคาซื้อขายต่ำสุดสำหรับช่วงเวลาที่เราเลือก ขณะที่ตำแหน่งบนสุดแสดงราคาสูงสุดที่มีการซื้อขาย บาร์ทั้งแท่งแสดงให้เห็นถึงช่วงราคาซื้อขายตามช่วงเวลาที่ระบุ ราคาเปิดและปิดจะแสดงด้วยเครื่องหมายขีดแนวนอนที่ยื่นไปทางซ้ายและขวาของแท่งบาร์ตามลำดับ


มีลักษณะของแท่งบาร์สองแบบที่สามารถปรากฏบนแผนภูมิกราฟ วิธีการทั่วไปในการจำแนกบาร์แต่ละแท่ง คือ ดูจากจุดที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างราคาเปิดและราคาปิดภายในช่วงเวลาหนึ่งๆ ว่าเป็นแท่งกระทิง (ราคาขึ้น) หรือแท่งหมี (ราคาลง) ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง

(รูปภาพ)
Bull Bar - แท่งกระทิง
Bear Bar - แท่งหมี


กราฟแท่งบาร์แสดงข้อมูลแยกกันโดยไม่เชื่อมโยงราคา ณ ช่วงเวลาหนึ่งกับราคาในช่วงเวลาถัดไป บาร์แต่ละแท่งจะแสดงเฉพาะข้อมูลการเคลื่อนไหวของช่วงราคาในช่วงเวลาระบุเท่านั้น หากเปรียบเทียบกับกราฟเส้นแล้ว การอ่านรูปแบบกราฟแท่งบาร์อาจจะซับซ้อนกว่า แต่กราฟแท่งบาร์จะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในแต่ละช่วงเวลาให้คุณเห็น

กราฟแท่งเทียน

เช่นเดียวกับกราฟแท่งบาร์ กราฟแท่งเทียนจะแสดงชุดข้อมูลเดียวกัน คือ ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุด แต่การอ่านกราฟแท่งเทียนจะง่ายกว่ากราฟแท่งบาร์ โดยราคาสูงสุดจะถูกระบุด้วยเงาส่วนบน ในขณะที่ราคาต่ำสุดจะแสดงโดยเงาส่วนล่าง ยิ่งแท่งเทียนมีความยาวมากเท่าไหร่ ความหนาแน่นของการซื้อหรือขายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น นั่นหมายความว่า ยิ่งแท่งเทียนยาวเท่าไร การเปลี่ยนแปลงของราคาก็มากขึ้นเท่านั้น ในทางกลับกัน แท่งเทียนสั้นบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่มีเพียงเล็กน้อยและแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพ (ช่วงเวลาที่ตลาดราบเรียบ)

(รูปภาพ)
Smaller body - แท่งเทียนสั้น
The Highest Price For the Day - ราคาสูงสุดของวัน
Closing Price - ราคาปิด
Opening Price - ราคาเปิด
The Lowest Price For the Day - ราคาต่ำสุดของวัน


ความแตกต่างเพียงอย่างเดียว คือ โครงสร้างของแท่งราคา ในกราฟแท่งบาร์ ราคาเปิดและปิดจะถูกแสดงด้วยเครื่องหมายขีดแนวนอนไปทางซ้ายและขวา ส่วนกราฟแท่งเทียน บริเวณลำแท่ง (ส่วนกลาง) จะแสดงราคาที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยปกติ ถ้าแท่งเทียนทึบ นั่นหมายความว่า ค่าเงินหรือ CFD มีราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด ในทางตรงกันข้าม หากแท่งเทียนสีขาวโปร่ง แสดงว่าเป็นแท่งเทียนกระทิง (ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด) อย่างไรก็ตาม เราควรที่จะจดจำไว้ว่า สีของแท่งเทียนเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามแพลตฟอร์มแต่ละแบบและคุณสามารถปรับได้ตามต้องการ ทั้งในซอฟท์แวร์ xStation 5 และ MT4
 



(รูปภาพ)
Bearish Candlestick - แท่งเทียนหมี
Bullish Candlestick - แท่งเทียนกระทิง


เมื่อเปรียบเทียบกับกราฟแท่งบาร์แบบดั้งเดิม เทรดเดอร์หลายคนจะบอกว่า กราฟแท่งเทียนมองง่ายและตีความได้ง่ายกว่า แท่งเทียนแต่ละอันจะช่วยให้ตีความการเคลื่อนไหวของราคาได้ง่าย โดยเทรดเดอร์จะสามารถเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างราคาเปิดและปิด เช่นเดียวกับราคาสูงสุดและต่ำสุดได้ทันที ทั้งนี้ ความเชื่อมโยงระหว่างราคาเปิดและปิดถือเป็นข้อมูลสำคัญและเป็นแก่นสารของกราฟแท่งเทียน

แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

อย่างที่คุณได้เห็นแล้วว่า มีแผนภูมิกราฟสามประเภทที่ถูกใช้โดยบรรดาเทรดเดอร์ กราฟแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง ดังนั้น การจะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ คุณควรใช้กราฟที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด ผู้เริ่มต้นเทรดอาจเริ่มด้วยการใช้กราฟเส้นและตีความรูปแบบการซื้อขายขั้นพื้นฐาน ในขณะที่เทรดเดอร์ที่เริ่มเชี่ยวชาญแล้ว อาจใช้กราฟแท่งเทียนเพื่อพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถใช้แผนภูมิกราฟอื่นๆ เช่น Heikin-Ashi บนแพลตฟอร์มการซื้อขายของเราได้อีกด้วย

เข้าสู่ตลาดพร้อมลูกค้าของ XTB Group กว่า 1 000 000 ราย

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เราให้บริการมีความเสี่ยง เศษหุ้น (Fractional Shares) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการจาก XTB แสดงถึงการเป็นเจ้าของหุ้นบางส่วนหรือ ETF เศษหุ้นไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอิสระ สิทธิของผู้ถือหุ้นอาจถูกจำกัด
ความสูญเสียสามารถเกินกว่าเงินที่ฝาก